1. มีการพัฒนาการแต่งกายให้ดูดีมากขึ้น
2. มีความรับผิดชอบ และรุ้จักการแบ่งเวลามากขึ้น
3. เรียนรู้ที่จะแบ่งปัน ช่วยเหลือคนอื่น รู้จักการให้
4. ได้รับความรุ้ในหลายๆ แขนงมากขึ้น
วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2551
สิ่งที่ได้รับจากโครงการเตรียมฝึก
เขียนโดย SATTHAPHAT JIAMSIRIPORN ที่ 23:03
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
BitTorrent "พระเจ้า" หรือ "ผู้ร้าย" หน้าคอมฯ
โดย ผู้จัดการรายวัน
BitTorrent (ภาคปฏิบัติ)
แม้พฤติกรรมส่วนใหญ่ของคนเล่น BitTorrent (หรือจะรวมทั้งโปรแกรมอื่นๆ บนหน้าจอคอมฯ )จะถูกมองว่าเป็นต้นกำเนิดเบื้องต้นของการเกิดกิเลสในการทำผิดกฏหมายหรือแม้กระทั่งปัญหาสังคม ทว่าในมุมของคนเล่นแล้วหลายคนมองว่าเจ้า BitTorrent นี่แหละคือสังคมของการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่, เป็นโลกออนไลน์ที่สมบูรณ์แบบและเป็นการใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่คุ้มค่าที่สุด
"คอนเซ็ปต์ของพวกบิทคือมีอะไรมาแลกกันดู แบ่งกันดู สมมติว่าคุณมีไฟล์นี้อยู่เราก็จะมีไฟล์นี้อยู่ก็เอามาแบ่งคุณดู แล้วจะมีเมนูกลางที่เข้ามาแล้วดูว่าแต่ละคนมีอะไร ของหายากที่เราหาซื้อได้ก็มี ดนตรีแจ๊สเก่าๆ หนังโดราเอมอนอะไรที่เราไม่เคยดู มีงานเพลงใหม่ๆ ซีรีส์ หนังโป๊ หนังเกาหลีก็มีเยอะแยะ" นักเล่นบิทคนหนึ่งเผย
"มันเป็นเรื่องของการเผื่อแผ่แบ่งปันกันด้วยนะ คือถ้าเราเข้าไปดูด(โหลด)อย่างเดียวก็จะถูกถีบออกมา มันจะมีตัวกำหนัดอัตราไว้ว่า อัตราต่ำกว่านั้นคุณจะไม่มีสิทธิ์ดาวน์โหลดอีกแล้วนะ มันจะมีอัตราบอกอยู่ เพราฉะนั้นเราจะต้องอัพไฟล์ขึ้นไปเพื่อให้คนมาโหลดดู นอกจากเป็นการแลกเปลี่ยนมันเหมือนแฟชั่นน่ะ มีการแข่งขันกัน มันเท่ห์นะ แข่งกันอัพโหลด คนที่อัพได้จำนวนเยอะๆ ก็คือจะมีเพชร ในนี้จะเรียกเพชร เขาจะมีสัญลักษณ์ติดไว้เลยว่าเขานี่แหละอัพโหลดเยอะ กลายเป็นการแข่งทำสถิติ มันยิ่งทำให้นิยมกันมากขึ้นเรื่อยๆ”
"มันทำให้รู้ว่าโลกนี้มันไม่มีความลับอีกต่อไป มันใกล้เคียงกับคำว่าความเป็นอุดมคติมาก ไม่มีสังคมปิดบัง มันไม่ใช่แค่เรื่องหนัง เพลง หรือเกม อย่างเดียว มันเป็นเรื่องของหนังสือหายากคุณก็เอามาแชร์กันได้ ตัวอย่างข้อสอบ ซอฟแวร์ก็มีเยอะมาก หาอะไรไม่เจอก็มาหาในนี้ มีหมดนะไม่ต้องซื้อสำหรับซอฟแวร์ การ์ตูนเป็นเล่มๆ ก็มีคนสแกนให้เราอ่านนั่นคือข้อดีข้อแรก"
"อีกข้อคือมันทำให้เราใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างคุ้มค่าในความรู้สึกของผมนะ ปัจจุบันเราแค่เปิดอ่านข่าวบ้าง บางคนใช้แชตอย่างเดียว แต่ลงทุนเปิดอ่านข่าวไปไม่เท่าไหร่เองทั้งที่มีพื้นที่ทำอะไรได้อีกตั้งเยอะ ตัวนี้มันช่วยในค่าใช้จ่ายด้วยที่คุ้มกว่า เราได้ใช้ทั้งหมด...ฮิตแน่ครับ มันจะมากขึ้นเรื่อยๆ เดี๋ยวนี้ค่าเช่าพื้นที่ทำเว็บเนี่ยเดือนนึงไม่น่าจะเกิน 300 - 400 บาท ทำเว็บมาเชื่อมไว้ มันเท่ห์ไปอีกแบบหนึ่งนะ สร้างบ้านไว้แล้วมีคนเข้ามาเยี่ยม แล้วมันมีทุกอย่างครับ แชตก็ได้คุยกันก็ได้ มีเกมให้เล่น มันคือสังคมอีกด้านหนึ่งเลย มีทุกอย่าง จะเอาอะไรก็มีหมด”
ด้วยขั้นตอนที่ง่ายแสนง่าย เริ่มต้นจากการเตรียมเครื่องคอมฯ ให้มีความเร็วและระดับความจุที่สูง(ระดับหนึ่งป, ดาวน์โหลด(ฟรี)โปรแกรม อาทิ บิททอเร้นท์, บิททอร์นาโด, บิทโคเมท(กำลังได้รับความนิยม) แล้วเข้าไปสมัครตามเว็บไซต์ที่เป็นตัวกลาง(ประมาณการจากนักเล่นบิท คาดว่าในบ้านเรามีเว็บไซต์ในลักษณะนี้กว่า 100 เว็บฯ ด้วยกัน) จากนั้นก็เล่นได้เลยนั่นเองที่ทำให้ศิลปินอย่าง "เสนาหอย เกียรติศักดิ์ อุดมนาค" ต้องออกมาร้องห่มร้องไห้มาแล้วเมื่อเพลงใหม่ของเขาถูกถึงเข้าไปสู่โปรแกรมที่ว่าแล้วมีการดาวน์โหลดไปฟังเป็นว่าเล่น ทั้งๆ ที่เพลงดังกล่าวยังไม่ได้วางแผงแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีใครหลายคนอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงในเรื่องของละเมิดลิขสิทธิ์เฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของหนังและเพลงซึ่งคาดการณ์กันว่ามันจะมีส่วนสร้างความยากลำบากให้กับศิลปินนักร้อง - นักแสดงในบ้านเราที่เจอปัญหากับเทปผี - ซีดีเถื่อนมาแล้วต้องกระอักเลือดมากยิ่งขึ้นไปอีกก็ตาม ทว่าในมุมของนักวิจารณ์เพลงอย่าง "ต่อพงษ์ เศวตามร์" แล้วเขากลับเห็นแตกต่างออกไปโดยยอมรับว่าเทคโนโลยี BitTorrent แม้จะมีส่วนทำให้ค่ายเพลงหรือนักร้องตายก็จริง ทว่าคนเหล่านั้นเองต่างหากมิใช่หรือที่เป็นคนยื่นมีดออกมาเพื่อให้อีกฝ่ายฆ่าตัวเอง
"เสนาหอยเขาออกมาเศร้ามาก วันแรกที่เขาออกเทปมามีคนมาดาวน์โหลด มีคนเอามาปล่อยแล้วมีคนดาวน์โหลดไปแล้ว 3 หมื่นคน ถามว่าตายมั้ยค่ายเพลง ตายครับ ตายแน่นอน แต่ถ้าเป็นเมืองนอกบางคนก็มองว่าบิทคือเครื่องไม้เครื่องมือโปรโมทอย่างหนึ่งบางคนก็เอามาปล่อยเพลงหนึ่ง เพื่อที่จะเรียกให้คนไปซื้อเพลงที่เหลือ"
"ทีนี้ปัญหาของเพลงไทยคือว่าที่มันต้องตายแน่ๆ เพราะว่า 20 ปีที่ผ่านมาเราทำให้คนไทยนั้นไม่มีความจงรักภักดีต่อศิลปินไทยอีกแล้ว เพราะว่าค่ายเพลงทำสั่วๆ ออกมา ไม่มีใครรู้สึกหรอกว่าต้องสนับสนุนศิลปิน นั่นคือสาเหตุ อย่างญี่ปุ่นเขาก็ไม่มีปัญหาอะไรกับเรื่องบิทเลยทั้งที่ญี่ปุ่นเนี่ยมีเด็กจำนวนมากที่ผมรู้จักทางอินเทอร์เน็ต เขาเช่าเซิร์ฟเวอร์เพื่อที่จะปล่อยบิทโดยเฉพาะเลย เขาปล่อยทุกอย่างนะ แต่ไม่ปล่อยเพลงของศิลปินที่เขาชื่นชม"
"ทำไมเขาทำได้ เพราะศิลปินเขาไม่เคยทำให้เราต้องผิดหวังไงครับ แต่สำหรับศิลปินเรา ผมรู้สึกว่าอัลบั้มเกือบ 100% ไม่คุ้มกับค่าเงินที่เสียไป ไม่เคยคิดว่าอัลบั้มนี้ทำมาเป็นปีๆ ถึงได้ชิ้นนี้หรือกี่ชิ้น ทุกวันเราก็คิดแค่ว่าเดี๋ยวพี่เบิร์ดก็ออกมาอีกแล้ว 3 เดือน ออก 3 อัลบั้ม เหมือนหยาด นภาลัยเลย ใช่มั้ยครับ นี่คือเมืองไทย นี่คือเพลงทำเองที่ออกมารูปแบบนี้ ไม่เคยเข็ด อย่างตอนที่มีเอ็มพี 3 สิ่งที่ทำได้คืออกไปไล่จับเขา"
"แต่แก่นจริงๆ ที่ทำให้ระบบอุตสาหกรรมไทยล่มสลายคือเพราะตัวศิลปินเองที่ไม่เคารพคนฟังมากพอ นี่คือรูปแบบของการโต้ตอบ มันคือการที่เด็กลุกขึ้นมาบอกว่า ฉันจะปล่อยน่ะ ทำไมล่ะ”
*****
เรื่องโดย น้ำผึ้ง กอระพันธ์ /CyberBiz Team
http://www.sudipan.net/phpBB2/viewtopic.php?t=14046&sid=41be76966a3f9e2fd43f188236a8ce16
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น